รายงานความก้าวหน้าในการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ ICT เพื่อการศึกษา (สำหรับผู้บริหาร)
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับผิดชอบเรื่องการพัฒนาและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาทุกแห่งได้มีความพร้อม รวมทั้ง ได้ให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบประมาณรวมในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในระดับกระทรวง นั้น
บัดนี้ การดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะในสถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษาได้ดำเนินการตามแผนไปในระดับหนึ่งแล้ว กระทรวงศึกษาธิการ จึงใคร่ขอนำเสนอผลการดำเนินงาน ดังกล่าว (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย) ดังรายงานสรุป ต่อไปนี้
๑. การดำเนินงานด้านการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้พัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยอาศัยเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงเรียนในพื้นที่และของชุมชนร่วมกัน ทำให้ นักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๕๐ มีความรู้ความเข้าใจ สามารถที่จะใช้เทคโนโลยีและโปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อการสื่อสารและการค้นหาข้อมูลได้ และนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และ ปีที่ ๖ ทุกคนสามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ตารางคำนวณ และใช้อินเตอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูล รวมทั้งนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือประมาณร้อยละ ๕ สามารถเขียนโปรแกรมได้ และยังได้ร่วมกับมหาวิทยาลัย ๕ แห่ง พัฒนาโรงเรียนต้นแบบด้าน ICT ในปีการศึกษา ๒๕๔๖ นี้ จำนวน ๑๐ สถานศึกษา และได้ร่วมกับภาคเอกชนนำ ICT มาพัฒนาการเรียนการสอนในสถานศึกษา อีกไม่ต่ำกว่า ๑๘๐ แห่ง
๒. การพัฒนาครูและบุคลากรด้านการศึกษา ปัจจุบันได้พัฒนาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๕๘ (ประมาณ ๓๕๓,๔๗๗ คน) ให้มีความรู้ ประสบการณ์และทักษะด้านการใช้ ICT การสอนคณิตศาสตร์ / วิทยาศาสตร์ /เทคโนโลยี รวม ๖ หลักสูตร และจะเร่งดำเนินการพัฒนาต่อไปให้ครบทั้งหมด อีกประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ คน ภายในปีงบประมาณ ๒๕๔๗ นี้
๓. การพัฒนาสื่อและซอฟต์แวร์ ได้พัฒนาสื่อประเภทเว็บไซต์ให้เป็นศูนย์รวมข่าวสารข้อมูล แหล่งเรียนรู้ อย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า ๑,๕๐๐ เว็บไซต์ และในจำนวนนี้ ๗๐๐ เว็บไซต์ เป็นของสถานศึกษา ซึ่งได้เริ่มต้นโดยการสนับสนุนที่ดียิ่ง จากโครงการ School Net ของ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ จากสถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการ มีมากถึงวันละ ๕๐,๐๐๐ ครั้ง นับเป็นสถิติสูงสุดของหน่วยงานราชการในกลุ่มเว็บไซต์ ประเภท กระทรวง รวมทั้ง ได้พัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้มีไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ เล่ม และกำลังพัฒนาเพิ่มอีกประมาณ ๑,๐๐๐ เล่ม และได้มีการจัดประกวดสื่อ ได้สื่อต้นแบบทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ชุด/วิชา และได้มีการพัฒนาCourseware ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ ชุด/วิชา มี ศูนย์รวมสื่อไม่ต่ำกว่า ๑๐ ศูนย์
๔. การจัดหาและพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันสถานศึกษาร้อยละ ๓๓ หรือประมาณ ๑๔,๑๕๗ แห่ง สามารถเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้ สถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาจะเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้ทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖ นี้ และสถานศึกษาไม่ต่ำกว่า ๑๔,๓๐๘ แห่ง หรือประมาณร้อยละ๓๓ มีระบบคอมพิวเตอร์ใช้ ประมาณ ๑๑๙,๓๒๔ เครื่อง และยังได้ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร จัดโครงการปลูกต้นกล้าปัญญาเด็กไทย และโครงการส่งเสริมเด็กไทยด้วยICT รับบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้แล้วได้ไม่ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ เครื่อง รวมทั้งได้มอบหมายให้สถานศึกษาในสังกัดกรมอาชีวศึกษาและสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับสถานศึกษา
๕. การพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ(MIS)ได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง ระบบสารสนเทศด้านบุคลากร โดยมุ่งเน้นข้อมูลรายบุคคลของนักเรียนครูบุคลากรการศึกษาเพื่อรองรับนโยบาย Smart Card ภายในต้นปีการศึกษา๒๕๔๖นี้จะมีข้อมูลรายบุคลของนักเรียนทุกคน และยังพัฒนาให้มีระบบสารบรรณ ระบบพัสดุครุภัณฑ์ ระบบงบประมาณ ตามนโยบายการพัฒนาe-Government และการให้บริการ (Front Office) ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการในระดับกระทรวง(MOC) กรม(DOC) เขตพื้นที่และสถานศึกษา เพื่อรองรับศูนย์ปฎิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) ซื่งในปัจจุบันศูนย์ทุกระดับเริ่มให้บริการแล้ว นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีการศึกษาวิจัยเพื่อการจัดหาระบบGISที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนในทุกระดับ และการใช้งานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า
๖. การดำเนินการด้านการบริการและการเพิ่มประสิทธิภาพจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้มุ่งเน้นให้ทุกหน่วยงานและบุคลากรทุกระดับทุกคนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในบทบาทภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ปัจจุบันทุกหน่วยงานระดับกรม กอง มีและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย คิดเป็นร้อยละ๑๐๐ ส่วนบุคลากรทุกระดับในหน่วยงานระดับกรม กอง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒๕ ใช้ e-mail และระบบอิเลคทรอนิคส์ในหลากหลายรูปแบบในการติดต่อสื่อสารในการปฏิบัติงานในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ในการเร่งรัดพัฒนาและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา ในช่วงนี้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานศึกษาได้มีความต้องการอย่างชัดเจน ในการที่จะมีระบบคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนการสอน และหากต้องดำเนินการตามแผนก็จะมีครบทุกแห่งในปีงบประมาณ ๒๕๔๙
ดังนั้น หากรัฐบาลจะให้การสนับสนุนในการจัดหาโดยวิธีการเช่า ก็จะทำให้การพัฒนาและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา ซึ่งจะส่งผลถึงการพัฒนาปวงชนทุกระดับได้รวดเร็วขึ้น กระทรวงศึกษาธิการจึงขอนำผลการดำเนินงานในด้านนี้ เรียนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบและขอรับการสนับสนุน ทั้งแผนการดำเนินงานในอนาคต(ปีงบประมาณ ๒๕๔๗ - ๒๕๔๙) ตามแผนแม่บทด้าน ICT ของกระทรวงศึกษาธิการ และแนวทางที่จะทำให้การพัฒนาและการส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษามีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาปวงชนทุกระดับให้ได้รับการพัฒนาตามแผนได้รวดเร็วขึ้น ต่อไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น